ประวัติการศึกษา
– เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๔๗๖
– สําเร็จการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิตและสังคมสงเคราะห์ศาสตร์บัณฑิตจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี พ.ศ. ๒๕๐๑ และ ๒๕๐๒ ตามลําดับ
– พ.ศ. ๒๕๐๙ สําเร็จการศึกษาปริญญาเอกทางกฎหมาย (Docteur en Droit) จาก มหาวิทยาลัยปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ครอบครัว
สมรสกับท่านผู้หญิงมณฑินี มงคลนาวิน อดีตนางสนองพระโอษฐ์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙
ด้านการศึกษา
เป็นผู้ริเริ่มในการยกฐานะแผนกวิชานิติศาสตร์ ในคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ขึ้นเป็นคณะนิติศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕ และดํารงตําแหน่งคณบดี อยู่ ๖ ปี นอกจากนั้น เป็นผู้บรรยายกฎหมายในสถาบันการศึกษาอีกหลายแห่ง
ด้านวิชาชีพ
ได้ก่อตั้งสํานักกฎหมาย ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๓ จนถึงปัจจุบัน
ด้านการเมือง
เริ่มเป็นสมาชิกรัฐสภาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๕ จนถึง พ.ศ. ๒๕๓๕ และดํารงตําแหน่งรอง ประธานฯ, ประธานวุฒิสภา, ประธานรัฐสภา หลายสมัย
ในปี พ.ศ.๒๕๑๘ ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ พ.ศ.๒๕๑๘ (ป.ป.ป.)
ด้านบริหารราชการแผ่นดิน
ได้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๘
เหตุที่เป็นนักนิติศาสตร์ที่ยึดมั่นใน หลักยุติธรรม นิติธรรม สันติธรรม จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการอํานวยความยุติธรรมใน ๓ จังหวัดชายแดน ภาคใต้ (กอยส) และเป็นประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรม แห่งชาติ (คอ.นธ)
ด้านเกียรติคุณที่ได้รับทางวิชาการ
– ในปี ๒๕๒๒ ได้โปรดเกล้าฯให้เป็นศาสตราจารย์พิเศษจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
– พ.ศ. ๒๕๓๐ และ พ.ศ. ๒๕๓๒ รับพระราชทานปริญญานิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยรามคำแหงและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามลำดับ
– พ.ศ. ๒๕๓๑ รับพระราชทานปริญญาบัตร (กิตติมศักดิ์) จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
ด้านสังคมสงเคราะห์
– โปรดเกล้าฯให้เป็นกรรมการสภากาชาดไทย ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๗ จนถึงปัจจุบัน
– เป็นประธานกรรมการมูลนิธิตึก สก. ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๕ จนถึงปัจจุบัน
– เป็นประธานนกรรมการพีระยานุเคราะห์ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๗ จนถึงปัจจุบัน
ด้านเกียรติยศในสังคม
– ได้รับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักร รางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ประเภทส่งเสริมกิจการคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๔๒
– ได้รับพระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๓๗
– ได้รับพระราชทานเหรียญกาชาดสดุดี ชั้นที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๕๔
– เป็นนักศึกษาดีเด่นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ในโอกาสมหาวิทยาลัยมีอายุครบ ๕๐ ปี
– ได้เป็น “ปูชนียบุคคล” หนึ่งในร้อยคนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ในประเทศ :
– ตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ต.จ.ว.) พ.ศ.๒๕๒๗
– มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) พ.ศ.๒๕๒๗

– มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.) พ.ศ.๒๕๒๘

– ทุติยจุลจอมเกล้า (ท.จ.) พ.ศ.๒๕๓๐
– ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) พ.ศ.๒๕๓๒

– เหรียญรัตนาภรณ์ ชั้นที่ ๓ พ.ศ.๒๕๓๔

– ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๐
– เหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ ๑

– เหรียญกาชาดสดุดี ชั้นที่๑ พ.ศ.๒๕๕๔

ต่างประเทศ :
– อิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดจากสาธารณรัฐเกาหลี พ.ศ. ๒๕๒๘

– อิสริยาภรณ์เลยีออง ดอนเนอร์ ชั้นคอมมานเดอร์จากสาธารณรัฐฝรั่งเศส พ.ศ. ๒๕๒๙
![]()